ASUS ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนสายเกมมิ่งในซีรีส์ ROG Phone 5 อย่างเป็นทางการแล้วทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ ROG Phone 5, 5 Pro และ 5 Ultimate มาพร้อมจอ AMOLED 144Hz, ชิปเซ็ต Snapdragon 888
ASUS เปิดตัว ROG Phone 5 ทั้งหมด 3 รุ่น สุดจัดในย่านเกมมิ่ง
ASUS ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนในตระกูล ROG Phone 5 series ด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ ROG Phone 5, 5 Pro และ 5 Ultimate ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนั้นจะมีความแตกต่างกันอยู่ที่ สี, RAM, ROM และราคา ส่วนสเปคอื่นๆ นั้นจะเหมือนกันแทบทั้งหมด โดยมีรายละเอียดดังนี้
ROG Phone 5
ASUS ROG Phone 5 นั้นเปิดตัวมาพร้อมกับจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080×2448 พิกเซล (~395ppi) ที่มีอัตรารีเฟรชเรทหน้าจอที่สูงถึง 144Hz และมีความไวต่อการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่เพิ่มขึ้นถึง 300Hz (รุ่นก่อนหน้าอยู่ที่ 270Hz) โดยทาง ASUS เคลมว่า “การตอบสนองการสัมผัสหน้าจอนั้นเร็วถึง 24.3ms” ซึ่งหน้าจอนั้นจะได้รับการปกป้องด้วยกระจกจาก Corning Gorilla Glass Victus พร้อมเคลือบสารพิเศษ ช่วยให้นิ้วของคุณไม่ลื่นเวลามีเหงื่อออก
ตัวหน้าจอนั้นรองรับ HDR10+ ครอบคลุมถึง 111% ของมาตรฐานสี DCI-P3 และครอบคลุม 151% ของ sRGB ช่วยทำให้หน้าจอนั้นสว่างกว่ารุ่นเดิมถึง 800 nits (typ) และสว่างสูงสุดที่ 1200 nits (peak)
ในด้านของประสิทธิภาพนั้น ROG Phone 5 นั้นจัดเต็มมาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ที่แรงที่สุดในขณะนี้อย่าง Qualcomm Snapdragon 888 จับคู่กับ GPU Adreno 660
- โดย ROG Phone 5 รุ่นธรรมดานั้นจะมี 3 สเปคให้เลือก ได้แก่ รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB, รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB และรุ่น 16GB + ROM 256GB
- ส่วน ROG Phone 5 Pro นั้นจะมีสเปคเดียว คือ RAM 16GB + ROM 512GB
- รุ่นท็อปสุดนั้นคือ ROG Phone 5 Ultimate ที่ให้ RAM มาสูงถึง 18GB + ROM 512GB
หมายเหตุ: RAM เป็น LPDDR5, ส่วน ROM เป็นแบบ UFS 3.1, *ไม่สามารถเพิ่ม ROM เป็น 1TB ได้ และ *ไม่มีช่องใส่ microSD Card เพิ่มเติม
สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดของทั้ง 3 รุ่น เลยก็คือ “สีของตัวเครื่องและบอดี้ด้านหลัง” ที่รุ่นธรรมดานั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ สีขาว (Storm White) และสีดำ (Phantom Black)
![](https://imodtoy.com/wp-content/uploads/2021/03/asus-rog-phone-5-series-4.jpg)
ส่วนรุ่น Pro นั้นจะมีเพียงสีเดียว คือ สีดำ (Glossy Black) และหากคุณสังเกตบอดี้ด้านหลังเครื่องให้ดี ที่บอดี้ด้านหลังเครื่องนั้นจะมีความแตกต่างกันอยู่ ก็คือ
- ในรุ่นธรรมดานั้นที่ด้านหลังจะมีโลโก้ RGB backlit Republic of Gamers ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้เพียงเท่านั้น
- ส่วนรุ่น Pro นั้นจะใช้จอแสดงผลขนาดเล็กที่มีชื่อว่า ROG Vision จัดวางในแนวเฉียงแทน ซึ่งมีข้อดี คือ คุณสามารถปรับเปลี่ยนสี ให้แสดงโลโก้ แสดงวันที่ หรือแสดงสถานะต่างๆ ได้
![](https://imodtoy.com/wp-content/uploads/2021/03/asus-rog-phone-5-series-5.jpg)
สำหรับรุ่น Ultimate นั้นถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุด เป็น Limited Edition ที่มาพร้อมกับธีมสีขาว (Matte White) มี อุปกรณ์ Box Set ครบกล่องแบบจัดเต็ม และหากสังเกตให้ดีในส่วนของจอแสดงผลขนาดเล็ก ROG Vision นั้น จะไม่มีสีสันที่ฉูดฉาด จะสามารถปรับเปลี่ยนสีที่ออกเป็นโทนขาวดำได้เพียงเท่านั้น เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์นั่นเอง
![](https://imodtoy.com/wp-content/uploads/2021/03/asus-rog-phone-5-series-6.jpg)
อีกหนึ่งจุดที่แตกต่างกัน ก็คือ ในรุ่น Pro และรุ่น Ultimate จะมีการแถม “พัดลมเกมมิ่ง AeroActive Cooler 5” มาให้ด้วย ซึ่ง ASUS ได้ผลิต AeroActive Cooler 5 มาเพื่อช่วยลดอุณหภูมิของตัวเครื่องลงในระหว่างใช้งานหนัก เช่น การเล่นเกม เป็นต้น โดย AeroActive Cooler 5 นั้นช่วยลดอุณหภูมิพื้นผิวลงได้ถึง 15ºC และช่วยลดอุณหภูมิชิปเซ็ตลงถึง 10ºC
![](https://imodtoy.com/wp-content/uploads/2021/03/asus-rog-phone-5-series-7-1.jpg)
แน่นอนว่าตัวพัดลม AeroActive Cooler 5 นั้นมาพร้อมกับรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. และใส่ขาตั้ง (Kickstand) ได้ ซึ่งหากคุณไม่ใช้ตัวพัดลม คุณก็ยังเปลี่ยนไปใส่ AirTrigger 5, ROG Kunai 3 Gamepad, ROG Clip และอุปกรณ์อื่นๆ แทนได้ (อุปกรณ์เหล่านี้ไม่แถมนะครับ)
ASUS ROG Phone 5 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 6,000 mAh ที่แบ่งออกเป็น 2 ก้อน จัดวางไว้ที่ด้านซ้ายและด้านขวาโดยมี CPU อยู่ตรงกลาง ข้อดีอย่างแรกเลยก็คือ มันจะช่วยให้พัดลม AeroActive Cooler 5 นั้นเข้าใกล้ชิปเซ็ตได้มากที่สุด ช่วยลดอุณหภูมิได้มากที่สุด ข้อที่สองก็คือ มันจะช่วยให้นิ้วมือของคุณระหว่างที่จับและเล่นเกมไม่โดนความร้อนไปด้วย
อีกทั้งการออกแบบแบตเตอรี่ให้แยกเป็นสองส่วนนั้นยังช่วยให้การชาร์จได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดย ROG Phone 5 นั้นรองรับการชาร์จเร็วสูงสุดถึง 65W ผ่านพอร์ต USB Type-C 3.1 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0-70% ภายในเวลา 30 นาที และชาร์จ 0-100% ภายในเวลา 52 นาที
ในด้านของกล้องนั้น ASUS ROG Phone 5 ก็ไม่น้อยหน้าใคร ด้วยการใช้กล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว จัดวางในแนวนอนพร้อมแฟลช LED ได้แก่
- กล้องหลัก (Wide) เซ็นเซอร์ Sony IMX686 – ความละเอียด 64MP (f/1.8), มี PDAF
- กล้องถ่ายมุมกว้างพิเศษ (Ultrawide) – ความละเอียด 13MP (f/2.4), สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 125 องศา
- กล้องมาโคร (Macro) – ความละเอียด 5MP (f/2.0)
สามารถถ่ายวิดีโอ 8K ที่ 30fps, ถ่าย 4K ที่ 60fps และ 120 fps สำหรับการเคลื่อนไหวต่ำ, ในส่วนกล้องหน้านั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 24MP (f/2.5)
ASUS ROG Phone 5 นั้นรองรับ 5G สามารถใส่ได้ 2 ซิม, มาพร้อมรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. พร้อมด้วย ESS Sabre ES9280AC Pro Quad DAC มาพร้อมกับแอมป์ Class G ตรวจจับอิมพีแดนซ์ของหูฟังโดยอัตโนมัติพร้อมเปลี่ยนเป็นโหมดที่เหมาะสม (รองรับหูฟังระหว่าง 8 โอห์มถึง 1,000 โอห์ม) นอกจากนี้ในบอร์ดยังมีลำโพงสเตอริโอแบบยิงด้านหน้า (Front-firing Stereo Speakers) ที่ขับเคลื่อนด้วยแอมป์ Cirrus Logic CS35L45 ถึงสองตัว
ASUS ROG Phone 5 ทั้ง 3 รุ่น นั้นเปิดตัวมาพร้อมกับ Android 11 ซึ่งคุณสามารถเลือกได้อีกว่าจะใช้ ROG UI หรือ Zen UI เป็นหน้าตาและธีมที่จะใช้งาน โดยในรุ่น Pro นั้นจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายน, รุ่น Ultimate Limited Edition จะวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2021 ส่วนรุ่นธรรมดานั้นคาดว่าจะวางจำหน่ายหลังสุดต่อจากรุ่น Pro และรุ่น Ultimate
โดยมีราคาประมาณคร่าวๆ ดังต่อไปนี้
- ASUS ROG Phone 5 – RAM 8GB + ROM 128GB มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 800 ยูโร (ประมาณ 29,500 บาท)
- ASUS ROG Phone 5 Pro – RAM 16GB + ROM 512GB มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,200 ยูโร (ประมาณ 44,000 บาท)
- ASUS ROG Phone 5 Ultimate Limited Edition – RAM 18GB + ROM 512GB มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,300 ยูโร (ประมาณ 48,000 บาท)
[ROG Phone 5 Launch Event]
[ROG Phone 5 Ultimate]
ขอขอบคุณ – ASUS ROG Phone 5, GSMArena
ทีมงาน iModTOY
Related posts
1 Comment
Comments are closed.
อัปเดตล่าสุด!
15 ที่เที่ยวเยอรมนี เน้นวิวสวยสุดอลัง เหมาะกับสายถ่ายรูป
หากพูดถึงประเทศในแถบยุโรป เยอรมนีมักจะติด 1 ใน 10 ประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดในโลกเสมอ นอกจากจะเป็นประเทศมีประวัติศาสตร์เก่าแก่และสถาปัตยกรรมทรงคุณค่า จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกมากถึง 51 รายการ โดยมีสัดส่วนของแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมมากถึง 48 รายการ เยอรมนียังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกอีกด้วย
Motorola เปิดตัว Moto G30 และ Moto G10 Power อย่างเป็นทางการแล้ว
ล่าสุด Motorola ก็ได้เปิดตัว Moto G30 และ Moto G10 Power อย่างเป็นทางการแล้วในยุโรปและอินเดีย มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวทรงสี่เหลี่ยมขอบมน ราคาโคตรถูก
[…] อ้างจากแหล่งที่มา: … […]