Samsung Galaxy Note 10 สุดยอดสมาร์ตโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุดด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชันที่ต้องร้อง Wow!! 

เปิดตัวกันไปแล้วกับ Samsung Galaxy Note 10 สุดยอดสมาร์ตโฟนของซัมซุง ทางซัมซุงประเทศไทยก็ได้จัดงานพร้อม “เปิดตัว The Next Galaxy สมาร์ตโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุดจากซัมซุง” เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย เรามาชมฟังก์ชันการทำงานและบรรยากาศในงานกันเลยค่ะ

Samsung Galaxy Note 10 สุดยอดสมาร์ตโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุดด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชันที่ต้องร้อง Wow!!

วันที่ 8 สิงหาคม 2019 ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของสุดยอดสมาร์ตโฟน Samsung Galaxy Note 10 โดยคุณคธา อินทราวิชกุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที พร้อมเปิดให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่สนใจจองเครื่องและพรีวิวให้เต็มเหนี่ยวก่อนใคร

Samsung Galaxy Note 10 มาพร้อมกับดีไซน์อันหรูหราทันสมัย

Samsung Galaxy Note 10 มาพร้อมกับดีไซน์อันหรูหราทันสมัย ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม และการทำงานอันแสนทรงพลัง ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เหล่า “New Work Tribe” หรือกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ในยุคนี้ ที่มีไลฟ์สไตล์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตผสมควบคู่กันไป ดีไซน์เพื่อมอบประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยม มาพร้อมตัวเลือก 2 ขนาด เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีขนาดพอดีในการใช้งานร่วมกับปากกาอัจฉริยะ S Pen ได้อย่างสมบูรณ์แบบ คือ

• Samsung Galaxy Note 10 ขนาด 6.3 นิ้ว
• Samsung Galaxy Note 10+ ขนาด 6.8 นิ้ว

ซึ่งถือเป็นหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่กาแลคซี่ โน้ตเคยมีมาก่อน

ดีไซน์หน้าจอไร้ขอบ (Edge-to-edge): กาแลคซี่ โน้ต 10 มาพร้อมหน้าจอ Cinematic Infinity Display แบบไร้ขอบ กล้องหน้าถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลงและฝังอยู่บริเวณกึ่งกลางเพื่อดีไซน์สมมาตร โดยหน้าจอแสดงผลนี้จะให้ภาพที่คมชัดสมจริงที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อระหว่างไอเดีย การรับชม และการลงมือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ 

หน้าจอแสดงผลที่ดีที่สุด: หน้าจอ Dynamic AMOLED บนกาแลคซี่ โน้ต 10 คือนวัตกรรมที่ได้รับรางวัลและเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของซัมซุง ทั้งยังได้รับการรับรอง HDR10+ และการปรับโทนภาพแบบอัตโนมัติ (Dynamic Tone Mapping) ทำให้รูปภาพและวิดีโอมีความสว่าง สีสันสดใส และมีเฉดสีที่มากขึ้นกว่าโน้ตรุ่นก่อนๆ

นอกจากนี้หน้าจอของกาแลคซี่ โน้ต 10 ยังผ่านการรับรองจาก UL (UL รับรองกาแลคซี่ โน้ต 10 ด้วยหน้าจอระดับพรีเมี่ยมที่ให้ความสม่ำเสมอของแสงและสีแม่นยำถึง 98% พร้อมด้วยการฝังกล้องใต้หน้าจอแสดงผลที่ให้ความโปร่งแสงถึง 92%) ให้ความสม่ำเสมอของแสง อีกทั้งเทคโนโลยีหน้าจอถนอมสายตา ช่วยลดแสงสีฟ้าโดยไม่ลดคุณภาพของสีภาพ

ฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลายและเจ๋งสุดๆ 

• เปลี่ยนลายมือเป็นข้อความ เปลี่ยนลายมือเป็นตัวอักษรได้อย่างทันที พร้อมทั้งยังสามารถแปลงไฟล์ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word หรือ PDF และยังสามารถปรับขนาดปลี่ยนสีของตัวอักษรได้อีกด้วย

• วิวัฒนาการของ S Pen เทคโนโลยี Bluetooth Low Energy ของ S Pen โดยการเพิ่มฟีเจอร์ Air Actions ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมฟังก์ชั่นที่ต้องการได้ผ่านการจับ S Pen หรืิอเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการเพื่อช่วยให้การเล่นเกมหรือใช้งานแอปพลิเคชันจากการแสดงออกของท่าทางได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

• Samsung DeX สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Samsung DeX  ถูกพัฒนาให้สมาร์ตโฟนสามารถทำงานร่วมกันกับ PC หรือระบบปฏิบัติการ MacOS ได้ง่ายขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน USB ที่รองรับในขณะเดียวกันยังป้องกันข้อมูลส่วนตัวบนสมาร์ทโฟนผ่านระบบรักษาความปลอดภัยด้วย Samsung Knox

• เชื่อมต่อกับ Windows  โดยสามารถเชื่อมต่อกับ Windows 10 ด้วย Quick Panel ได้โดยตรงด้วยคลิกเดียว ให้ผู้ใช้สามารถเห็นการแจ้งเตือน ส่งและรับข้อความ อีกทั้งดูรูปภาพได้โดยไม่ต้องละสายตามาที่โทรศัพท์ 

กล้องระดับโปรสำหรับครีเอเตอร์

• เทคโนโลยีการถ่ายวิดีโอระดับพรีเมียม โดยสามารถถ่ายวิดีโอออกมาได้อย่างมืออาชีพโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใดๆ เริ่มด้วยด้วยฟีเจอร์ Live Focus สามารถปรับความหน้าชัดหลังละลายของวิดีโอได้ มาพร้อมนวัตกรรม Zoom-In Mic ช่วยเน้นเสียงในเฟรมที่ต้องการให้ชัดขึ้น และในขณะเดียวกันช่วยลดเสียงของพื้นหลังออกไป และฟีเจอร์ Super Steady รูปแบบใหม่ที่ช่วยป้องกันการสั่นไหวของวิดีโอ ซึ่งสามารถใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวในโหมด Hyperlapse ได้อีกด้วย 

• ตัดต่อวิดีโอได้ง่ายและรวดเร็ว หลังจากบันทึกวิดีโอแล้ว สามารถตัดต่อและปรับแต่งวิดีโอขั้นพื้นฐานได้ทันทีด้วย Video Editor โดยสามารถใช้งานร่วมกับปากกา S Pen สำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องการการตัดต่อที่ซับซ้อนขึ้นก็ยังรองรับ Adobe Rush ที่มาพร้อมชุดเครื่องมือตัดต่อวิดีโอระดับมือโปรด้วย

• บันทึกวิดีโอหน้าจอ สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเพิ่มเอกลักษณ์ของตัวเองขณะสตรีมมิ่งหรือบล็อกเกอร์ที่อยากสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ Screen Recorder ที่ช่วยบันทึกภาพที่อยู่บนหน้าจออย่างง่ายดาย ใช้โหมด Picture-in-Picture เพื่อเพิ่มรีแอคชั่น และใช้ S Pen เพิ่มลูกเล่นบนวิดีโอได้

• AR Doodle และ 3D Scanner เทคโนโลยี AR และ 3D รวมไปถึงกล้อง Ultra Wide เพื่อเปิดมุมมองใหม่ๆ โดยการใช้ S Pen ในการสร้างสรรค์รูปภาพ วาดเอฟเฟค หรือภาพเคลื่อนไหวลงบนภาพถ่ายได้ด้วย AR Doodle นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี 3D Scanner เป็นครั้งแรกที่มาพร้อมกับกล้อง DepthVision ที่สามารถสแกนวัตถุและเปลี่ยนให้เป็นภาพเคลื่อนไหว 3 มิติได้ 

• โหมดถ่ายภาพกลางคืน เมื่อต้องการถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อย โหมดถ่ายภาพกลางคืน หรือ Night Mode พร้อมใช้งานบนกล้องหน้า เพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายเซลฟี่ที่สมบูรณ์แบบได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ 

ด้านประสิทธิภาพการใช้งาน

• Super Fast Charging ด้วยการชาร์จเพียง 30 นาที Samsung Galaxy Note 10+ สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน รองรับการชาร์จเร็วสูงสุดถึง 45W ด้วยที่ชาร์จแบบมีสาย

• Wireless PowerShare  ผู้ใช้งานสามารถนำ กาแลคซี่ วอทช์, กาแลคซี่ บัดส์, หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับระบบ Qi มาชาร์จแบบไร้สายกับ Samsung Galaxy Note 10 ได้ 

• เกมมิ่ง มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบายความร้อนที่บางที่สุดในโลก (Vapor Chamber Cooling System)  และด้วยนวัตกรรม AI ใน Game Booster ทำให้สามารถเพิ่มและลดการใช้พลังงานในแต่ละเกมได้
• Hyper-fast Speed ที่สามารถสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เร็วที่สุดของผู้ให้บริการเครือข่ายได้ผ่านตัวเลือกของสัญญานในรูปแบบ LTE

ซึ่งดูรวมๆ แล้ว Samsung Galaxy Note 10/10+ เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและเทรนด์ในโลกโซเชียลต่างๆ เหมาะกับ Blogger Creative นักคิดนักสร้างสรรค์และคนรุ่นใหม่ที่จะไม่หยุดนิ่งกับกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนเทคโนโลยีมีเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากที่สุด

สำหรับข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ สามารถดูได้ที่ www.samsung.com/th/note10 ได้เลยค่ะ