Blog Post

LG  G8 ThinQ เปิดตัวแล้ว มาพร้อมเซ็นเซอร์ ToF ปลดล็อคด้วยท่าทางการเคลื่อนไหว
Android

LG G8 ThinQ เปิดตัวแล้ว มาพร้อมเซ็นเซอร์ ToF ปลดล็อคด้วยท่าทางการเคลื่อนไหว 

LG มีสมาร์ตโฟนเรือธงซีรีย์ G ซึ่งปีที่แล้วได้เปิดตัว G7 และในปีนี้ก็ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อ G8 ThinQ ในงาน World Mobile Congress 2019 ที่มาพร้อมกับการปลดล็อคด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวที่แม่นยำ ด้วยเซ็นเซอร์ ToF เรามาชมกันเลยดีกว่าว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้างใน LG G8 ThinQ

LG G8 ThinQ เปิดตัวแล้ว มาพร้อมเซ็นเซอร์ ToF ปลดล็อคด้วยท่าทางการเคลื่อนไหว

LG G8 ThinQ เรือธงประจำปี 2019 ได้อัปเกรดจากรุ่น G7 ที่เป็นเรือธงของปี 2018 ซึ่งลักษณะภายนอกไม่ต่างกันมากนัก กล้องหลังของ G8 ถูกวางเป็นรูปแบบแนวนอน

จุดเด่นอยู่ที่กล้องหน้าใหม่ที่เรียกว่า Z-camera ที่ LG ได้ใช้เซ็นเซอร์ ToF (Time of Flight) ที่มีคุณสมบัติประเมินระยะเวลาการเดินทางและสะท้อนกลับของอินฟาเรด และประมวลผลระยะห่างของวัตถุกับกล้อง สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว ท่าทาง และระยะชัดลึกได้

ระบบกล้องหน้าของ G8 เป็นคุณสมบัติการปลดล็อคที่เป็นเอกลักษณ์ของ LG เรียกว่า Hand ID ที่มีการส่งสัญญาณอินฟราเรดจากฝ่ามือของผู้ใช้ ที่สามารถสแกนทะลุผ่านผิวหนังและตรวจจับการวางตัวของเส้นเลือดดำของผู้ใช้ ซึ่งเป็นการจดจำที่แม่นยำและมีความปลอดภัยสูง

การใช้ Z-camera ไม่เพียงแต่ใช้ในการปลดล็อคเท่านั้น แต่ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Air Motion ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการสั่งการทำงานอื่นๆ ในสมาร์ตโฟนได้อีกด้วย เช่น  การรับสาย การควบคุมเพลงหรือวิดีโอ โดยใช้ท่าทาง

สเปคเพิ่มเติมของ LG G8 นั้นได้อัปเกรดหน้าจอเป็น OLED ที่โค้งชิดขอบขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 3120x1440px มีรอยบากเว้นไว้สำหรับกล้องหน้าเล็กน้อย สำหรับชิปประมวลผลใช้ Snapdragon 855 รุ่นล่าสุด ความจุ 128GB, RAM 6GB, ความจุแบตเตอรี่ 3500 mAh, มีระบบสแกนนิ้วมือปลดล็อคด้านหลังตัวเครื่อง

LG G8 จะถูกวางจำหน่ายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก่อน และมีแผนที่จะวางขายทั่วโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมี 2 โมเดลคือ G8 และ G8S ThinQ ที่มีการอัปเกรดกล้องหลังให้มีเลนส์ Tele เพิ่มเข้ามา (กล้องหลัง 3 ตัว) และมีราคาที่สูงกว่า G8 แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดมากนักสำหรับรุ่น G8S

นอกจากจะเปิดตัวสมาร์ตโฟน G8 แล้ว LG ยังได้เปิดตัว LG V50 ThinQ 5 ที่มี 2 จอและพับหน้าจอได้ ซึ่งปีนี้สมาร์ตโฟนแบบพับหน้าจอได้เป็นกระแสที่มาแรงมากเลยทีเดียว

ขอบคุณ theverge

Related posts