เปรียบเทียบการใช้งาน Multitasking ระหว่าง iPhone X กับ Google Pixel 2 XL (Android P) 

ไม่นานมานี้ Google ได้เปิดตัว Android P และปล่อยเวอร์ชันทดสอบให้กับนักพัฒนาได้ลงทะเบียนและติดตั้งบนโทรศัพท์ Android ฟรี ทีมงาน 9to5mac จึงได้นำมาติดตั้งบน Google Pixel 2 XL เพื่อทำการทดสอบการใช้งาน

สิ่งที่น่าสนใจหลังจากลองติดตั้ง Android P คือ การปรับปรุงหน้าตาการทำงานรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะฟีเจอร์ Multitasking ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกับ iPhone X ของ Apple ซึ่งใช้ท่าทางการกวาดนิ้วจากขีดด้านล่างของหน้าจอ เพื่อสลับการเข้าถึงแอปพลิเคชัน ดูได้จากวิดีโอด้านล่างที่มีการทดสอบเปรียบเทียบการทำงานขีดปุ่มโฮมของ iPhone X และ Google Pixel 2 XL

เปรียบเทียบการใช้งาน Multitasking ระหว่าง iPhone X กับ Google Pixel 2 XL (Android P)

การเข้าถึงแอปแบบ Multitasking

ในการเคลื่อนไหวเพื่อเข้าถึงแอป iPhone X อาจจะดูราบรื่นกว่า ส่วนการแสดงผลในหน้า Multitasking อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย โดย iPhone X จะแสดงหน้าแอปซ้อนกัน ส่วน Google Pixel 2 XL จะแสดงหน้าแอปแบบไม่ทับซ้อนกัน แต่ท้ายสุดผลลัพท์ก็คือการเปลี่ยนสลับเพื่อเข้าถึงแอปเหมือนกัน

และสิ่งที่น่าสนใจในหน้า Multitasking ของ Google Pixel 2 XL คือมีการแสดงผลไอคอนแอปที่เพิ่งใช้งานล่าสุด 5 แอปด้านล่าง รวมถึงแถบ Google Search และ Google Assistant ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้มากขึ้น

การสลับ 2 แอปแบบรวดเร็ว

ใน Google Pixel 2 XL สามารถเลื่อนขีดปุ่มโฮมไปทางขวาเพื่อสลับ 2 แอปล่าสุดอย่างรวดเร็ว ซึ่งการทำงานนี้เหมือนกับการสลับ 2 แอปบน iPhone X

การเลื่อนดูแอปใน Multitasking

Google Pixel 2 XL สามารถเลื่อนขีดปุ่มโฮมไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อเลื่อนดูแอปทั้งหมดใน Multitasking โดยไม่ต้องยกนิ้วขึ้น ส่วน iPhone X ต้องปัดทีละครั้งเพื่อดูแอป ในการเคลื่อนไหว iPhone X ทำได้ดีกว่า

การบังคับปิดแอป

ใช้การปัดขึ้นเพื่อบังคับปิดแอปเหมือนกัน แต่อาจจะมีข้อแตกต่างเล็กน้อยตรงที่ iPhone X ต้องแตะที่แอปค้างไว้สักพัก แล้วค่อยปัดขึ้นเพื่อปิดแอป

การเข้าถึงหน้ารวมแอป

สำหรับ Google Pixel 2 XL ให้ปัดขึ้นจากด้านล่างของหน้าจอ ซึ่งส่วนนี้ไม่มีข้อเปรียบเทียบกับ iPhone X เนื่องจากหน้ารวมแอปของ iPhone X อยู่ในหน้าโฮมอยู่แล้ว

การแบ่งหน้าจอ

Google Pixel 2 XL เพียงแค่เข้าหน้า Multitasking และแตะไอคอนแอปที่ต้องการแสดงด้านบน และเลือกตัวเลือกสำหรับการแบ่งหน้าจอ จากนั้นก็เลือกแอปที่จะต้องการให้แสดงด้านล่างได้เลย ซึ่งฟีเจอร์การแบ่งหน้าจอนี้ หลายคนคาดหวังอยากให้มีใน iPhone บ้าง

การแสดงผลแบบ Picture-in-picture

ฟีเจอร์ Picture-in-picture ใน iOS สามารถใช้งานบน iPad ได้เท่านั้น ที่ทำให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการชมวิดีโอในหน้าจอเล็กๆ และสามารถเล่นแอปต่างๆ ไปพร้อมกันได้ ซึ่งใน Android P มีคุณสมบัตินี้ สำหรับผู้ใช้ iPhone ก็คาดหวังอยากให้มีบ้างเช่นกัน

ล็อคการหมุนหน้าจอแบบรวดเร็ว

ฟีเจอร์นี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับ Multitasking แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรแนะนำ ซึ่ง Android P ได้นำเสนอคุณสมบัติล็อคการหมุนหน้าจอแบบรวดเร็ว เมื่อเราหมุนหน้าจอเป็นแนวนอน ก็สามารถแตะไอคอน ล็อคหน้าจอแนวนอนได้เลย หากหมุนกลับมาเป็นแนวตั้ง ก็สามารถแตะปิดการล็อคหน้าจอแนวนอนได้อย่างรวดเร็ว

สรุปได้ว่าทั้ง Google และ Apple ต่างได้เรียนรู้ข้อดีและข้อที่ควรปรับปรุงของกันและกัน และได้นำมาพัฒนาระบบในเวอร์ชันใหม่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ อย่าง Android P ก็ได้ปรับปรุงสิ่งที่ขาดหายจากเวอร์ชันก่อนหน้า และ iOS ก็อาจจะต้องได้รับการชี้นำจาก Android เพื่อพัฒนา iOS ให้ดีที่สุด

ขอบคุณ 9to5mac